Digital Trends in 2018 กับสิ่งที่กำลังมาแรง
เทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นธุรกิจต้องตอบโจทย์ผู้บริโภคอยู่เสมอ วันนี้ SocialEnable จะพามาดู 6 เทรนด์ดิจิทัลปี 2018 ที่มาอย่างแน่นอน แล้วเราจะรับมือกับมือมันอย่างไรบ้าง ตามไปอ่านกันได้เลยครับ
- AI (Artificial Intelligence)
เริ่มต้นขึ้นแล้วกับการใช้ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ในการศึกษารูปแบบพฤติกรรมของผู้บริโภค เรียนรู้สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการหรือพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอย เพื่อวิเคราะห์ประมวลผล หรือคาดเดาความต้องการของผู้บริโภค ในปี 2018 เริ่มมีการใช้ AI มากขึ้น และพัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น การใช้ Facebook Chatbot ในการบริการลูกค้า ผ่านทาง Message เป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับคนที่เปิดเพจทำธุรกิจบน Facebook ซึ่งในสมัยก่อนนั้นต้องใช้วิธีการเขียนโค้ด ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับคนทั่วไป แต่ปัจจุบันมีเครื่องมือมากมายที่ช่วยในการสร้าง Chatbot โดยคาดว่าภายในปี 2018 ผู้บริโภคจะเริ่มซื้อสินค้าผ่านตัว AI มากกว่ามนุษย์ด้วยกัน
- IOT (Internet of things)
เป็นกระแสที่มาแรงอย่างมาก และคาดว่าจะยังร้อนแรงอย่างต่อเนื่องในปี 2018 โดย IoT เป็นการเชื่อมโยงทุกสิ่งทุกอย่างเข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ต ทำให้มนุษย์สามารถสั่งการ ควบคุมใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้ เช่น Smart Device มีตั้งแต่ของใช้ภายในบ้านอย่างตู้เย็นหรือเครื่องปรับอากาศ หรือในปี 2018 อาจถึงขั้นพัฒนาไปสู่ความเป็น Smart City เลยก็เป็นได้ ดังนั้นจะเริ่มเห็นว่า IoT จะค่อยๆคืบคลานเข้ามาเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันของผู้คน
- VR (Virtual Reality) & AR (Augmented Reality)
สำหรับประเทศไทยในปี 2018 VRและAR ถือว่ายังใช้งานได้ไม่กว้างนัก จะเห็นได้ในวงการเกมก่อนเช่น Pokémon Go จาก AR หรือเกมรถไฟเหาะ เกมแนวสยองขวัญ จาก VR เป็นต้น แต่เรื่องการศึกษา ยังไม่มีผู้ผลิตคอนเทนต์แนวนี้มากนัก ส่วนด้านภาพยนตร์ อาจจะมีให้เห็นในปี 2018 นี้ นอกจากนั้นก็จะเห็นได้จากวงการอสังหาริมทรัพย์ ที่มีการนำเริ่ม VR และ AR มาใช้งานบ้าง แต่อาจจะน้อยอยู่เมื่อเทียบกับต่างประเทศ ส่วนอุตสาหกรรมอื่นๆ หากมีไอเดียและคอนเทนต์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจมานำเสนอผ่าน VRหรือAR ได้ก็จะดีไม่น้อย
ดังนั้นอีกไม่นานประเทศไทย ปี 2018 เราน่าจะได้เห็น Developer เก่งๆ หรือสินค้าและบริการ ที่นำเสนอผ่อนคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างประสบการณ์ผู้บริโภคหลายๆแบรนด์ นำ VRหรือAR ไปใช้ในการตลาดได้อย่างน่าสนใจ
- Payment
พวกเราน่าจะเคยได้ยินคำว่า ‘‘สังคมไร้เงินสด’’กันมาบ้างแล้ว เป็นการชำระเงิน ค่าบริการหรือซื้อสินค้าต่างๆ แบบดิจิตอลผ่านแอพพลิเคชั่นในมือถือ ซึ่งในปี 2018 QR code จะมาแทนบาร์โค้ดอย่างแน่นอน ธนาคารเกือบทุกแบรนด์เริ่มครอบคลุมในการให้บริการชำระเงินออนไลน์กันแล้ว รวมถึงร้านค้าหลายๆแบรนด์ทั้งแบรนด์ใหญ่-เล็ก จะเริ่มแพร่หลายไปทุกๆช่องทาง (จริงๆ ตั้งแต่ปีนี้แล้ว แต่ยังไม่ครอบคลุมมากนัก) ซึ่งการชำระเงินออนไลน์เป็นการอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี เพราะช่วยเก็บข้อมูลการชำระเงิน ประวัติการทำธุรกิรรม และที่สำคัญคือไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน
- Website
ปีหน้า Facebook ยังคงเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง แต่ต้องแลกมากับค่าโฆษณา ที่จะถีบตัวขึ้นสูงไปอีกเพราะปัจจุบัน Organic Reach ได้ถูกปรับลดลงอย่างมาก ที่แฟนเพจนั้นจะเห็นโพสต์ของคุณ ดังนั้นการทำการตลาดบน Facebook จะไม่ใช่การทำการตลาดงบน้อยๆ อีกต่อไป
เว็บไซต์หลักจึงเป็นสิ่งสำคัญเพราะเป็นเหมือนบ้านของตัวเอง ส่วน Facebook เหมือนกับไปเช่าหอเขาอยู่ นับวันๆราคายิ่งขึ้น เพราะมีคนแย่งกันเช่ามากขึ้น ที่สำคัญในการทำเว็บไซต์คือ ต้องทบทวนกลยุทธ์การทำเว็บไซต์หลักผ่านทางมือถือมากขึ้น เพราะเว็บไซต์ตอนนี้คนดูในมือถือ มากกว่าบน Desktop ไปแล้ว ดังนั้นการทำเว็บไซต์บนอุปกรณ์มือถือ เป็นตัวเลือกแรกๆของนักการตลาดในปัจจุบัน เช่นการทำเว็บไซต์ให้ซัพพอร์ทกับเฟสบุ๊ค นอกจากการทำเว็บไซต์ให้รองรับอุปกรณ์มือถือแล้ว
การทำ SEO นั้นก็เป็นสิ่งสำคัญในปี 2018 เช่นกัน (ที่จริงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ แต่เมื่อก่อนธุรกิจเน้นใช้แต่บน Facebook) เป็นการช่วยให้เว็บไซต์ถูกค้นหาได้อย่างง่ายดายผ่าน Google แต่การทำ SEO ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เนื่องจากต้องใช้ความชำนาญและเวลาอยู่บ้างในการทำ แต่ก็ไม่ได้ยากถึงขนาดว่าเรียนรู้ไม่ได้เลยเช่นกัน หากทำให้เว็บไซต์อยู่หน้าแรกๆได้ จะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมกับกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ รวมไปถึงการเรียกให้ลูกค้าเก่ากลับมาเยี่ยมเว็บไซต์อีกครั้งได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ธุรกิจบนออนไลน์์ควรให้ความสนใจและลงทุนในด้านนี้เป็นอย่างมาก
- Social Media Management Tools
ในปีหน้าธุรกิจบนโลกออนไลน์จะเพิ่มมากขึ้นไปอีก การแข่งขันนั้นจะยิ่งเข้มข้นขึ้นอีก ดังนั้นการเข้าถึงและเข้าใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง (Consumer Insight) จึงเป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงผู้บริโภคมีความเป็น Personalization และกึ่งๆ เป็น Influencer เพราะหากผู้บริโภคเจอสินค้าหรือประสบการณ์ที่ไม่ดี ไม่ชอบ ก็จะบอกเรื่องราวต่อๆกัน ปากต่อปาก หรือถึงขั้นร้องเรียนให้ธุรกิจนั้นๆ รับผิดชอบ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนส่วนใหญ่พูดถึงธุรกิจเราในด้านใด ปัญหาที่เกิดขึ้นมานี้ ทำให้เกิดเครื่องมือที่เรียกว่า ‘‘Social Listening หรือ Monitoring Tools’’ (อยู่ในประเภท Social Media Management) ที่ค่อยดูหรือตรวจสิ่งที่ผู้บริโภคพูดถึงธุรกิจของเรา (Mention) ทั้งในด้านดีและไม่ดี ได้หลายช่องทางบน Social Media (Facebook,Twitter,Youtube,Instagram) เพื่อเข้าใจความต้องการหรือจัดการกับวิกฤตที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในต่างประเทศนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น Hootsuite ส่วนในประเทศไทยยังไม่ค่อยมีคนรู้จักกันมากนัก แต่ในปี 2018 นี้จะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่น่าจับตามองอย่างมากในวงการธุรกิจ IT
สรุป
SocialEnable จะขอวิเคราะห์ Digital Trends เพื่อช่วยให้ผู้อ่านปรับตัวได้เร็วขึ้น
-AI : มีบทบาทมากขึ้น คนจะซื้อของผ่าน Chatbot กันมากขึ้นไม่ใช่แค่ใน Message Facebook อย่างแน่นอน ผลก็คือลดพนักงานที่ต้องมาคอยตอบ Inbox รวมถึงการบริการที่ดีขึ้นและเร็วขึ้น
-IOT : ในประเทศยังคงมีราคาที่ค่อนข้างสูงอยู่ Smart City อาจจะยังไกลตัวไป ส่วนอีกไม่กี่ปี Smart Home มีความสำคัญอย่างคนยุค Baby Boomer แน่นอน
-VR&AR : ปีหน้าเริ่มใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆมากขึ้น นักการตลาดคงจะสนุกกับเครื่องมือนี้ เพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษให้ผู้บริโภค เช่น ธุรกิจจัดอีเว้นท์หรืออสังหาริมทรัพย์ ใช้กล้อง 360 องศา
-Payment : ที่จริงเริ่มตั้งแต่ปีนี้แล้วอย่าง SCB เดินหน้า’สังคมไร้เงินสด’ แต่ปีหน้าจะครอบคลุมถึงร้านค้าพ่อค้าแม่ค้ารายเล็ก ให้ได้ใช้ QR Code ในการซื้อสินค้ากันอย่างแน่นอน
-Website : เทรนด์อันนี้ไม่พูดถึงไม่ได้แน่นอน มันเกิดมาจาก Facebook เริ่มที่จะลด Organic Rech ลงมาก เพื่อให้คนจ่ายแบบ Paid มากขึ้น ดังนั้นเลยทำให้ Website เป็นสิ่งที่สำคัญมากขึ้น เพราะคือบ้านของเราตั้งแต่เริ่มต้น สามารถควบคุมจัดการได้ เมื่อ Website สำคัญ SEO จึงสำคัญ สุดท้าย Content จึงสำคัญที่สุด จะเห็นว่า 3 สิ่งนี้ไปด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์ (แนะนำ SEO อย่าเดินทางสายดำ [Black Hat] กันนะครับ)
–Social Media Management Tools : ในปีหน้าข้อมูลจะเยอะมากกว่าเดิม ผู้บริโภคจะเลือกเสพ Content มีความเป็น Personalization และ มีความ Influencer ในตัว ดังนั้นเครื่องมือ Social Listening Tools เป็นเครื่องมือที่น่าจับตามองอย่างมาก
สรุป
แน่นอนว่าปี 2018 จะเป็นปีแห่งการแข่งขันอย่างเข้มข้นบนโลกดิจิทัล ใครที่ไม่สามารถปรับตัวหรือรับมือกับเทคโนโลยีใหม่ๆ จะเข้าถึงผู้บริโภคได้ยากและตามความต้องการผู้บริโภคไม่ทัน
#DigitalTrend #Trend2018 #WebSite #SEO #Content #SocialEnable #tools
– Contact Us –
หากสนใจหรืออยากได้คำปรึกษาเกี่ยวกับเครื่องมือ Social Listening/Monitoring สามารถติดต่อได้ที่ 080-808-9080 แล้ว Customer Service จะติดต่อกลับไปทันที