Facebook Vs. Google | ศึกนี้ใครจะชนะ มาดู
ในแต่ละวันเราเสพสื่อ ข่าวสารหรือบทความต่างๆ ผ่าน Social Media อย่าง Facebook, Instagram หรือ Twitter แม้ว่า Facebook มีข่าวการลด Reach ตั้งแต่ปลายปีมาเรื่อยๆ ก็ยังถือว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย
- ล่าสุด Parse.ly เผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Traffic ที่มาจากเว็บไซต์ทั้ง Facebook และ Google นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์มอื่นๆอีก ทาง SocialEnable จึงขอยก 2 แพลตฟอร์มนี้มาวิเคราะห์และมาเปรียบเทียบกัน พบว่าปี 2017 ที่ผ่านมา การเข้าชมเว็บไซต์ส่วนมากกลับกลายเป็นฝั่ง Search Engine อย่าง Google ซึ่งชนะ Facebook ไปที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าอาจเกิดจากการปรับเปลี่ยนอัลกอริทึมของ Facebook ตั้งแต่ต้นปี 2017
ดูกันเน้นๆระหว่าง Facebook Vs Google Referral Traffic (ตั้งแต่ปี 2017 – ปัจจุบันปี 2018)
parse.ly/referrer-dashboard/google search Vs. facebook
จากที่ Mark zuckerberg ออกมาพูดถึงแนวทางของ Facebook และแนวทางการปรับอัลกอริทึม เพื่อมุ่งเน้นไปที่คน และสังคมความเป็นอยู่มากขึ้น (การลด Reach และแนวทางของ Facebook 2018) ทำให้ Traffic ของ Facebook ลดลงอย่างมาก จนทำให้ Search Engine อย่าง Google กลับมาชนะขาดอีกครั้ง โดยยอดเข้าชมของ Google สูงถึง 44% ในขณะที่ Facebook อยู่ที่ 24% เท่านั้น ในเดือนมีนาคม 2018
การปรับตัวและทิศทางในอนาคต
– สำหรับสาย Search อย่าง Google ควรลงทุนต่อไปทั้งการทำ SEO และ SEM เพราะเว็บไซต์เป็นสิ่งที่เราสามารถควบคุมได้ไม่ว่าจะรายชื่อลูกค้า, Insight ของคนที่เข้าเว็บ จะทำให้ในระยะยาวคุ้มค่าแก่การลงทุน ส่วนช่องทาง Social Media นั้นเป็นเพียงแค่ช่องทางหนึ่งเท่านั้น ถึงแม้สามารถใช้เป็นช่องทางในการเรียก Traffic เข้าเว็บมาได้ แต่ไม่ควรอยู่ เป็นแค่ช่องทางหลัก หรือช่องทางเดียว ควรหาช่องทางอื่นไว้เสมอ เพราะเราไม่สามารถควบคุมมันได้ ช่องทางนั้นๆ อาจเปลี่ยนแปลงกฎหรืออัลกอริทึมที่ทำให้เราเสียประโยชน์ไปได้เช่นกัน
– ในสาย Social อาจจะต้องปรับเปลี่ยนตัว Content หรือ Format ในการนำเสนอต่างๆ เพื่อดึงดูด Traffic โดยการใช้คำหรือหัวข้อที่ชวนให้กดอ่าน แต่ระวังเป็น ”clickbait” เพราะ Facebook สามารถตรวจจับได้ รวมถึงต้องครอบคลุม Social ทุกช่องทางไม่เพียงอยู่แค่ Facebook เท่านั้น แต่ต้องหา Channel อื่นที่ลูกค้าหรือกลุ่มที่เราสนใจ เช่น ลองค้นหาว่ากลุ่มเป้าหมายเราอยู่ Social Channel ไหนบ้าง เช่น Twitter, Instagram, Youtube เป็นต้น
สรุป
เมื่อ Google กลับมามีบทบาทมากขึ้นในเรื่องของ Traffic ที่สามารถดึงคนเข้าเว็บได้มากกว่า แม้ Facebook จะลด Reach โพสต์ประเภทรูปและลิงค์ แต่แพลตฟอร์มของ Facebook ก็ยังคงมีผู้ใช้งานสูงอยู่ดี(Active Users) ดังนั้นธุรกิจต้องศึกษาถึงพฤติกรรมผู้บริโภค หรือกลุ่มเป้าหมายของเรา ว่าใช้แพลตฟอร์มไหนกันบ้างในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนั้นๆ บางธุรกิจเริ่มจากเว็บไซต์ของตัวเองก่อนเพราะสามารถควบคุม จัดการได้ง่าย บางธุรกิจก็เริ่มจาก Facebook ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายก่อน เพราะต้องการคนมา Engagement กับโพสต์เรา เป็นต้น